พลังงานหมุนเวียน ทางเลือก ทางรอดของประเทศ
ผมทำงานด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนมานาน มีโอกาสเดินทางไปบรรยายให้ความรู้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากมายหลายแห่งทั่วประเทศ เมื่อ 5 ปีก่อนเราเติมน้ำมันกันลิตรละสิบกว่าบาท วันนี้ลิตรละเท่าไรคงต้องดูกันเอาเองเพราะขึ้นทุกวัน ทุกครั้งที่ผมขึ้นเวทีบรรยายบางท่านอาจจะคงยังจำได้ว่าผมมักจะพูดเสมอว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะต้องซื้อน้ำมันกันลิตรละ 50 บาท เมื่อสี่ห้าปีก่อนผมมักได้รับเสียงวิภาควิจารย์และเสียงหัวเราะจากผู้เข้ารับฟังการบรรยายของผมบางส่วนเสมอ ผมยอมรับว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในวันนี้สูงขึ้นเร็วกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้มาก ยังจำได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อไม่นานมานี้เวลาที่ราคาน้ำมันจะขยับตัวสูงขึ้น เพื่อนผมที่ทำงานอยู่ในธุรกิจพลังงานจะโทรมากระซิบว่าให้รีบไปเติมน้ำมันก่อนกลับบ้าน ผมก็จะกระทำตามทุกครั้งก่อนที่จะไปคุยให้อาจารย์ท่านอื่นๆ ฟังในวันรุ่งขึ้นอย่างภาคภูมิใจว่าสามารถเติมน้ำมันได้ถูกกว่าคนอื่น แต่ทุกวันนี้เพื่อนผมเลิกโทรบอกผมแล้ว คงหมดค่าโทรศัพท์ไปหลายบาท ผมเองก็เริ่มจะทำใจได้และรู้สึกเฉยๆ กับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทุกวันอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกผมก็คงเป็นเช่นเดียวกันกับประชาชนคนไทยอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งชินกับการเปลี่ยนแปลง และต้องจำทนรับสภาพกับสภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนให้เราทราบว่า “ยุคแห่งความสะดวกสบายและการใช้ทรัพยากรณ์ที่มีอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อกำลังจะหมดลง…”
ก่อนที่จะคุยกันเรื่องพลังงานคงต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าพลังงานแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือพลังงานใช้แล้วหมดไป หรือบางครั้งเรียกว่า“พลังงานสิ้นเปลือง” หรือ “พลังงานฟอสซิล” เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พวกนี้ใช้แล้วจะมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ แน่นอนของที่มีจำนวนน้อยหรือหายากก็จะมีราคาแพงขึ้น และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน
ประเภทที่สองคือ พลังงานใช้ไม่หมด บางครั้งเรียกว่า “พลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานสะอาด” เช่น ชีวมวล (ไม้ ฟืน แกลบ กากอ้อย มูลสัตว์) น้ำ แสงอาทิตย์ ลม คลื่น ฯลฯ พวกนี้สามารถเกิดขึ้นตามธรรมชาติสามารถสร้างหรือปลูกทดแทนได้ ควรส่งเสริมให้มีการใช้กันให้มากที่สุดเพราะไม่ต้องซื้อต้องหามีอยู่รอบๆ ตัวเรา
อีกเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ในยุคนี้ก็คือเรื่องของภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์สืบเนื่องจากโลกไม่สามารถระบาย ความร้อนที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ออกไปได้อย่างที่เคยเป็น เวลาผมอธิบายหรือบรรยายให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านมักไม่ค่อยชอบฟังซึ่งอาจเป็นเพราะเข้าใจยาก แต่ผมชอบประโยคที่คุณภาสกร พุทธิชีวิน CEO บริษัท บีเอ็นบี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ท่านกล่าวให้ชาวบ้านฟังว่า “โดยปกติอุณหภูมิของร่างกายคนทั่วไปจะประมาณ 35 องศา ถ้าวัดแล้ว 37 องศา มันก็แสดงว่าเริ่มป่วยหรือเป็นไข้แล้ว ต้องให้ยา ต้องรีบรักษา ก่อนที่มันจะลุกลามจนถึงขั้นลุกไม่ขึ้น รักษาไม่ทัน ไอ้โลกของเราขณะนี้ก็เช่นกัน แต่โลกของเรารักษาเพียงคนเดียวไม่ได้ เราต้องร่วมมือกัน...” สาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้นเกิดจากภาวะเรือนกระจกหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า “Green house effect” ซึ่งมีต้นเหตุ จากการที่มนุษย์เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆ จากการขนส่งการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนั้นมนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์และคลอโรฟลูโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปอีกด้วย พร้อม ๆ กับการที่เราตัดและทำลายป่าไม้จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ ทำให้กลไกในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยธรรมชาติถูกทำลายลง และในที่สุดสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้กระทำต่อโลกก็ได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของภาวะโลกร้อน
วิกฤติการณ์ ด้านพลังงานในปัจจุบัน รวมถึงผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทุกประเทศทั่วโลกพยายามแสวงหาวิธีในการแก้ปัญหาและลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยนับวันจะทวีความรุนแรงและมีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันคงเป็นภัยธรรมชาติ ที่เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง การแปรปวนของฤดูการณ์ รวมถึงปัญหาน้ำท่วมชายฝั่ง คาดกันว่าในอนาคตปัญหาดังกล่าวจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
โจทย์ของผมและของคนไทยในวันนี้จึงมีอยู่ว่า ถ้ามันลิตรละร้อย ก๊าซหุงต้ม (LPG) ไม่มีขาย พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหินราคาแพงมาก แล้วพวกเราจะดำเนินชีวิตกันอย่างไร ผมลองนั่งคิดและสร้างโมเดลในการดำเนินชีวิตของผมในอนาคตขึ้นมาโมเดลหนึ่ง หากว่าผมต้องไปสร้างบ้านบนภูเขา ห่างไกลความเจริญ ผมจะอยู่อย่างไร โดยมีข้อแม้ว่าต้องอยู่ได้และต้องไม่เป็นการเพิ่มอุณหภูมิของโลก และยังดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสะดวกสบายตามปกติ ผมจึงเลือก 4 เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนเพื่อเป็นทางเลือกยุคนี้
เครื่องผลิตไบโอดีเซล “น้ำมันบนดิน เหลือกินเหลือใช้” ผมจะปลูกต้นไม้ ปลูกพืชเศรฐกิจประเภท ปาล์ม สบู่ดำ กระเจี๊ยบ ปลูกผักผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำมาเป็นอาหาร ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขาย เงินที่ได้ใช้จ่ายเท่าที่ต้องการและเก็บส่วนหนึ่งไว้ยามเจ็บป่วย ผมจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางไปทำกิจธุระในเมือง ใช้เกวียนคงไม่ไหวหากเจ็บป่วยคงไม่ทันการณ์ ผมต้องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลใช้เองแทนการใช้น้ำมันปิโตเลี่ยม
ไบโอดีเซล เป็นชื่อเรียกที่หมายถึงเชื้อเพลิงที่ผลิตจากน้ำมันพืช หรือไขมันสัตว์ ซึ่งเป็นพืชผลจากเกษตรกรรม โดยผ่านกระบวนการทางเคมี เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างไขมันให้เป็นเอสเทอร์ของกรดไขมัน ไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซลได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ วิธีการที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ และในหลาย ๆ ชุมชนก็มีการผลิตไบโอดีเซลด้วยวิธีการนี้เช่นกัน คือ กระบวนการทรานเอสเทอริฟิเคชัน เพราะทำได้ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก
เครื่องผลิตแก๊สและปุ๋ยชีวภาพ “ปุ๋ยดี แก๊สฟรี ไม่มีขยะ” เวลาหุงหาอาหาร อยากต้มน้ำชงชาสักถ้วยดื่มในตอนเช้า ผมจะผลิตแก๊สชีวภาพใช้เองแทนก๊าซหุงต้ม (LPG) จากเศษอาหารที่เหลือ เศษผักผลไม้ ใบไม้ใบหญ้า และมูลสัตว์ ได้แก๊สและปุ๋ยใช้แถมยังได้ปุ๋ยชีวภาพอยางดีมาใช้กับต้นไม้ในสวนอีกด้วย
ก๊าซชีวภาพ คือ ก๊าซที่เกิดจากการย่อยสลายสารอินทรีย์โดยแบคทีเรียชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในสภาวะไร้อากาศ องค์ประกอบหลักของก๊าซชีวภาพได้แก่ ก๊าซมีเทนประมาณ 60-70% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ประมาณ 28-30% ก๊าซอื่นๆ เนื่องจากก๊าซชีวภาพมีส่วนของมีเทนเป็นส่วนประกอบหลัก จึงทำให้มีคุณสมบัติติดไฟได้ดี และสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานในรูปแบบอื่นๆ ได้มากมาย
กังหันลมผลิตไฟฟ้า “ลมแรง ลมดี ใช้ไฟฟรีไม่เสียเงิน” เนื่องจาก ผมต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานและต้องติดตามข่าวสารและละครโปรดทางวิทยุและโทรทัศน์ ผมต้องการไฟฟ้าแต่จะไม่ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเนื่องจากเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนผมจะต้องผลิตไฟฟ้าใช้เอง ผมตั้งใจจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประเภทลมจากกังหันลมผลิตไฟฟ้า
ลมเป็นพลังงานธรรมชาติที่เกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิ 2 ที่ ซึ่งสะอาดและบริสุทธิ์ใช้แล้วไม่มีวันหมดสิ้นไปจากโลก ได้รับความสนใจนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกัน กังหันลมก็เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่สามารถนำพลังงานลมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ โดยเฉพาะในการผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานลมเกิดจากพลังงานจากดวงอาทิตย์ตกกระทบโลกทำให้อากาศร้อน และลอยตัวสูงขึ้น อากาศจากบริเวณอื่นซึ่งเย็นและหนาแน่นมากกว่าจึงเข้ามาแทนที่ การเคลื่อนที่ของอากาศเหล่านี้เป็นสาเหตุให้เกิดลม และมีอิทธิพลต่อสภาพลมฟ้าอากาศในบางพื้นที่ของประเทศไทย กังหันลมผลิตไฟฟ้า คือ เครื่องจักรกลอย่างหนึ่งที่สามารถรับพลังงานจลน์จากการเคลื่อนที่ ของลมให้เป็นพลังงานกลได้ จากนั้นนำพลังงานกลมาใช้ประโยชน์โดยการนำมาขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เชื่อมต่ออยู่ด้านหลังเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
ระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ “แดดแรง แดดดี ใช้ไฟฟรีไม่มีหมด” ผมต้องใช้น้ำบาดาลเพื่อทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ และอุปโภคบริโภค ผมจะต้องใช้ระบบสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์และพลังลม เพื่อสูบน้ำขึ้นไปเก็บบนถังน้ำสูงและนำมาใช้ตามความต้องการ
ดวงอาทิตย์ให้พลังงานจำนวนมหาศาลแก่โลกของเรา พลังงานจากดวงอาทิตย์จัดเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญที่สุด เป็นพลังงานสะอาดไม่ทำปฎิกิริยาใดๆ อันจะทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เซลล์แสงอาทิตย์จึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางอิเล็คทรอนิคส์ชนิดหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง ส่วนใหญ่เซลล์แสงอาทิตย์ทำมาจากสารกึ่งตัวนำพวกซิลิคอน มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้สูงถึง 22 เปอร์เซนต์ ในส่วนของประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ในเกณฑ์สูง พลังงานโดยเฉลี่ยซึ่งรับได้ทั่วประเทศประมาณ 4 ถึง 4.5 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อตารางเมตรต่อวัน
ขอเพียง 4 เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนที่กล่าวมาแล้วนี้ ผมคิดว่าผมสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานสิ้นเปลือง ที่สำคัญผมไม่ต้องพึ่งพาพลังงานสิ้นเปลืองที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศปีละหลายแสนล้านบาท ผมทำคนเดียวผมก็สบายยู่คนเดียว ผมเชื่อว่าทุกวันนี้หลายๆคนใช้เงินที่หาด้วยนำพักน้ำแรงแต่ละเดือนเติมน้ำมันรถยนต์มากกว่านำไปใช้กินข้าวเสียอีก พวกเราคนไทยลองช่วยกันคิดดู หากทำเช่นเดียวกันทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้านและชุมชน ทั่วประเทศ อะไรจะเกิดขึ้น ประเทศชาติจะรวยขึ้นสักแค่ไหน นำงบประมาณในการนำเข้าพลังงานมาพัฒนาประเทศได้มากเท่าไร ที่สำคัญยังช่วยลดผลกระทบต่อต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ได้มากมายมหาศาล ต่ออายุให้กับโลกเพื่อลูกหลานได้อีกนานทีเดียว นี้คือโครงการในฝันของผม โครงการ “พึ่งพาตนเองด้านพลังงานทดแทน”
อ.ขันติ ปานขลิบ
ผมทำงานด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนมานาน มีโอกาสเดินทางไปบรรยายให้ความรู้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากมายหลายแห่งทั่วประเทศ เมื่อ 5 ปีก่อนเราเติมน้ำมันกันลิตรละสิบกว่าบาท วันนี้ลิตรละเท่าไรคงต้องดูกันเอาเองเพราะขึ้นทุกวัน ทุกครั้งที่ผมขึ้นเวทีบรรยายบางท่านอาจจะคงยังจำได้ว่าผมมักจะพูดเสมอว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะต้องซื้อน้ำมันกันลิตรละ 50 บาท เมื่อสี่ห้าปีก่อนผมมักได้รับเสียงวิภาควิจารย์และเสียงหัวเราะจากผู้เข้ารับฟังการบรรยายของผมบางส่วนเสมอ ผมยอมรับว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในวันนี้สูงขึ้นเร็วกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้มาก ยังจำได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อไม่นานมานี้เวลาที่ราคาน้ำมันจะขยับตัวสูงขึ้น เพื่อนผมที่ทำงานอยู่ในธุรกิจพลังงานจะโทรมากระซิบว่าให้รีบไปเติมน้ำมันก่อนกลับบ้าน ผมก็จะกระทำตามทุกครั้งก่อนที่จะไปคุยให้อาจารย์ท่านอื่นๆ ฟังในวันรุ่งขึ้นอย่างภาคภูมิใจว่าสามารถเติมน้ำมันได้ถูกกว่าคนอื่น แต่ทุกวันนี้เพื่อนผมเลิกโทรบอกผมแล้ว คงหมดค่าโทรศัพท์ไปหลายบาท ผมเองก็เริ่มจะทำใจได้และรู้สึกเฉยๆ กับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทุกวันอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกผมก็คงเป็นเช่นเดียวกันกับประชาชนคนไทยอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งชินกับการเปลี่ยนแปลง และต้องจำทนรับสภาพกับสภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนให้เราทราบว่า “ยุคแห่งความสะดวกสบายและการใช้ทรัพยากรณ์ที่มีอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อกำลังจะหมดลง…”
ก่อนที่จะคุยกันเรื่องพลังงานคงต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าพลังงานแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือพลังงานใช้แล้วหมดไป หรือบางครั้งเรียกว่า“พลังงานสิ้นเปลือง” หรือ “พลังงานฟอสซิล” เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พวกนี้ใช้แล้วจะมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ แน่นอนของที่มีจำนวนน้อยหรือหายากก็จะมีราคาแพงขึ้น และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน
ประเภทที่สองคือ พลังงานใช้ไม่หมด บางครั้งเรียกว่า “พลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานสะอาด” เช่น ชีวมวล (ไม้ ฟืน แกลบ กากอ้อย มูลสัตว์) น้ำ แสงอาทิตย์ ลม คลื่น ฯลฯ พวกนี้สามารถเกิดขึ้นตามธรรมชาติสามารถสร้างหรือปลูกทดแทนได้ ควรส่งเสริมให้มีการใช้กันให้มากที่สุดเพราะไม่ต้องซื้อต้องหามีอยู่รอบๆ ตัวเรา
อีกเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ในยุคนี้ก็คือเรื่องของภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์สืบเนื่องจากโลกไม่สามารถระบาย ความร้อนที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ออกไปได้อย่างที่เคยเป็น เวลาผมอธิบายหรือบรรยายให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านมักไม่ค่อยชอบฟังซึ่งอาจเป็นเพราะเข้าใจยาก แต่ผมชอบประโยคที่คุณภาสกร พุทธิชีวิน CEO บริษัท บีเอ็นบี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ท่านกล่าวให้ชาวบ้านฟังว่า “โดยปกติอุณหภูมิของร่างกายคนทั่วไปจะประมาณ 35 องศา ถ้าวัดแล้ว 37 องศา มันก็แสดงว่าเริ่มป่วยหรือเป็นไข้แล้ว ต้องให้ยา ต้องรีบรักษา ก่อนที่มันจะลุกลามจนถึงขั้นลุกไม่ขึ้น รักษาไม่ทัน ไอ้โลกของเราขณะนี้ก็เช่นกัน แต่โลกของเรารักษาเพียงคนเดียวไม่ได้ เราต้องร่วมมือกัน...” สาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้นเกิดจากภาวะเรือนกระจกหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า “Green house effect” ซึ่งมีต้นเหตุ จากการที่มนุษย์เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆ จากการขนส่งการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนั้นมนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์และคลอโรฟลูโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปอีกด้วย พร้อม ๆ กับการที่เราตัดและทำลายป่าไม้จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ ทำให้กลไกในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยธรรมชาติถูกทำลายลง และในที่สุดสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้กระทำต่อโลกก็ได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของภาวะโลกร้อน
วิกฤติการณ์ ด้านพลังงานในปัจจุบัน รวมถึงผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทุกประเทศทั่วโลกพยายามแสวงหาวิธีในการแก้ปัญหาและลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยนับวันจะทวีความรุนแรงและมีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันคงเป็นภัยธรรมชาติ ที่เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง การแปรปวนของฤดูการณ์ รวมถึงปัญหาน้ำท่วมชายฝั่ง คาดกันว่าในอนาคตปัญหาดังกล่าวจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
โจทย์ของผมและของคนไทยในวันนี้จึงมีอยู่ว่า ถ้ามันลิตรละร้อย ก๊าซหุงต้ม (LPG) ไม่มีขาย พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหินราคาแพงมาก แล้วพวกเราจะดำเนินชีวิตกันอย่างไร ผมลองนั่งคิดและสร้างโมเดลในการดำเนินชีวิตของผมในอนาคตขึ้นมาโมเดลหนึ่ง หากว่าผมต้องไปสร้างบ้านบนภูเขา ห่างไกลความเจริญ ผมจะอยู่อย่างไร โดยมีข้อแม้ว่าต้องอยู่ได้และต้องไม่เป็นการเพิ่มอุณหภูมิของโลก และยังดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสะดวกสบายตามปกติ ผมจึงเลือก 4 เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนเพื่อเป็นทางเลือกยุคนี้
เครื่องผลิตไบโอดีเซล “น้ำมันบนดิน เหลือกินเหลือใช้” ผมจะปลูกต้นไม้ ปลูกพืชเศรฐกิจประเภท ปาล์ม สบู่ดำ กระเจี๊ยบ ปลูกผักผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำมาเป็นอาหาร ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขาย เงินที่ได้ใช้จ่ายเท่าที่ต้องการและเก็บส่วนหนึ่งไว้ยามเจ็บป่วย ผมจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางไปทำกิจธุระในเมือง ใช้เกวียนคงไม่ไหวหากเจ็บป่วยคงไม่ทันการณ์ ผมต้องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลใช้เองแทนการใช้น้ำมันปิโตเลี่ยม
ไบโอดีเซล เป็นชื่อเรียกที่หมายถึงเชื้อเพลิงที่ผลิตจากน้ำมันพืช หรือไขมันสัตว์ ซึ่งเป็นพืชผลจากเกษตรกรรม โดยผ่านกระบวนการทางเคมี เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างไขมันให้เป็นเอสเทอร์ของกรดไขมัน ไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซลได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ วิธีการที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ และในหลาย ๆ ชุมชนก็มีการผลิตไบโอดีเซลด้วยวิธีการนี้เช่นกัน คือ กระบวนการทรานเอสเทอริฟิเคชัน เพราะทำได้ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก
เครื่องผลิตแก๊สและปุ๋ยชีวภาพ “ปุ๋ยดี แก๊สฟรี ไม่มีขยะ” เวลาหุงหาอาหาร อยากต้มน้ำชงชาสักถ้วยดื่มในตอนเช้า ผมจะผลิตแก๊สชีวภาพใช้เองแทนก๊าซหุงต้ม (LPG) จากเศษอาหารที่เหลือ เศษผักผลไม้ ใบไม้ใบหญ้า และมูลสัตว์ ได้แก๊สและปุ๋ยใช้แถมยังได้ปุ๋ยชีวภาพอยางดีมาใช้กับต้นไม้ในสวนอีกด้วย
ก๊าซชีวภาพ คือ ก๊าซที่เกิดจากการย่อยสลายสารอินทรีย์โดยแบคทีเรียชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในสภาวะไร้อากาศ องค์ประกอบหลักของก๊าซชีวภาพได้แก่ ก๊าซมีเทนประมาณ 60-70% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ประมาณ 28-30% ก๊าซอื่นๆ เนื่องจากก๊าซชีวภาพมีส่วนของมีเทนเป็นส่วนประกอบหลัก จึงทำให้มีคุณสมบัติติดไฟได้ดี และสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานในรูปแบบอื่นๆ ได้มากมาย
กังหันลมผลิตไฟฟ้า “ลมแรง ลมดี ใช้ไฟฟรีไม่เสียเงิน” เนื่องจาก ผมต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานและต้องติดตามข่าวสารและละครโปรดทางวิทยุและโทรทัศน์ ผมต้องการไฟฟ้าแต่จะไม่ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเนื่องจากเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนผมจะต้องผลิตไฟฟ้าใช้เอง ผมตั้งใจจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประเภทลมจากกังหันลมผลิตไฟฟ้า
ลมเป็นพลังงานธรรมชาติที่เกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิ 2 ที่ ซึ่งสะอาดและบริสุทธิ์ใช้แล้วไม่มีวันหมดสิ้นไปจากโลก ได้รับความสนใจนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกัน กังหันลมก็เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่สามารถนำพลังงานลมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ โดยเฉพาะในการผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานลมเกิดจากพลังงานจากดวงอาทิตย์ตกกระทบโลกทำให้อากาศร้อน และลอยตัวสูงขึ้น อากาศจากบริเวณอื่นซึ่งเย็นและหนาแน่นมากกว่าจึงเข้ามาแทนที่ การเคลื่อนที่ของอากาศเหล่านี้เป็นสาเหตุให้เกิดลม และมีอิทธิพลต่อสภาพลมฟ้าอากาศในบางพื้นที่ของประเทศไทย กังหันลมผลิตไฟฟ้า คือ เครื่องจักรกลอย่างหนึ่งที่สามารถรับพลังงานจลน์จากการเคลื่อนที่ ของลมให้เป็นพลังงานกลได้ จากนั้นนำพลังงานกลมาใช้ประโยชน์โดยการนำมาขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เชื่อมต่ออยู่ด้านหลังเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
ระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ “แดดแรง แดดดี ใช้ไฟฟรีไม่มีหมด” ผมต้องใช้น้ำบาดาลเพื่อทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ และอุปโภคบริโภค ผมจะต้องใช้ระบบสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์และพลังลม เพื่อสูบน้ำขึ้นไปเก็บบนถังน้ำสูงและนำมาใช้ตามความต้องการ
ดวงอาทิตย์ให้พลังงานจำนวนมหาศาลแก่โลกของเรา พลังงานจากดวงอาทิตย์จัดเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญที่สุด เป็นพลังงานสะอาดไม่ทำปฎิกิริยาใดๆ อันจะทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เซลล์แสงอาทิตย์จึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางอิเล็คทรอนิคส์ชนิดหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง ส่วนใหญ่เซลล์แสงอาทิตย์ทำมาจากสารกึ่งตัวนำพวกซิลิคอน มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้สูงถึง 22 เปอร์เซนต์ ในส่วนของประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ในเกณฑ์สูง พลังงานโดยเฉลี่ยซึ่งรับได้ทั่วประเทศประมาณ 4 ถึง 4.5 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อตารางเมตรต่อวัน
ขอเพียง 4 เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนที่กล่าวมาแล้วนี้ ผมคิดว่าผมสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานสิ้นเปลือง ที่สำคัญผมไม่ต้องพึ่งพาพลังงานสิ้นเปลืองที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศปีละหลายแสนล้านบาท ผมทำคนเดียวผมก็สบายยู่คนเดียว ผมเชื่อว่าทุกวันนี้หลายๆคนใช้เงินที่หาด้วยนำพักน้ำแรงแต่ละเดือนเติมน้ำมันรถยนต์มากกว่านำไปใช้กินข้าวเสียอีก พวกเราคนไทยลองช่วยกันคิดดู หากทำเช่นเดียวกันทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้านและชุมชน ทั่วประเทศ อะไรจะเกิดขึ้น ประเทศชาติจะรวยขึ้นสักแค่ไหน นำงบประมาณในการนำเข้าพลังงานมาพัฒนาประเทศได้มากเท่าไร ที่สำคัญยังช่วยลดผลกระทบต่อต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ได้มากมายมหาศาล ต่ออายุให้กับโลกเพื่อลูกหลานได้อีกนานทีเดียว นี้คือโครงการในฝันของผม โครงการ “พึ่งพาตนเองด้านพลังงานทดแทน”
อ.ขันติ ปานขลิบ